Japan Tax-Free วิธีช็อปปิ้งปลอดภาษีที่ญี่ปุ่น

ใครชอบช็อปปิ้งบ้าง…ยกมือ! พรึ้บ! เชื่อว่าต้องยกมือกันหลายคนแน่นอน

โดยเฉพาะสาวๆทั้งหลาย ญี่ปุ่นถือเป็นสวรรค์ของการช็อปปิ้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสื้อผ้าแบรนด์เนม เครื่องสำอางค์ ขนมของกินของฝาก เครื่องใช้ไฟฟ้า และอีกมาก เรียกได้ว่า คนมาเที่ยวญี่ปุ่นนี้คือช็อปปิ้งเป็นหลัก เรื่องเที่ยวเป็นรองนี้ก็เยอะอยู่ 555

ยังไงก็แล้วแต่ จะช็อปปิ้งทั้งทีเรื่องเงินนี้ต้องมาก่อนเป็นอันดับหนึ่ง เรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่มถึงจะไม่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆก็จริงอยู่ แต่ถ้าเผลอช็อปปิ้งเพลิน ลืมขั้นตอนบางอย่าง ซื้อของที่ญี่ปุ่นอาจจะแพงกว่าซื้อที่บ้านเราซะงั้นไป

วันนี้เราจะมาแฉให้หมดเปลือกกับวิธีการช็อปปิ้ง TAX FREE! ที่ญี่ปุ่น เพื่อนๆจะได้มาช็อปให้กระเป๋าฉีก สบายใจไร้กังวล เอาละ ไปลุยกันเลย!!

 

Source: halalinjapan.com

 

ปัจจุบัน (ปี 2016) ที่ญี่ปุ่นมีร้านค้ากว่า 29,000 ร้านที่ร่วมรายการ ถ้าเพื่อนเห็นป้ายนี้ ก็แวะเข้าร้าน ซื้อของ และทำการของดเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 8% ซึ่งบวกกับค่าเงินญี่ปุ่นที่ค่อนข้างอ่อนในช่วงนี้ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาช็อปปิ้งกันอย่างไม่ขาดสาย

แต่ใช้ว่าเราถือของไปวางหน้าเคาเตอร์แล้วเค้าจะทำ Tax Free ให้ซะเมื่อไหร่ ต่อไปจะเป็นวิธีการข้อกำหนดต่างๆในการของดเว้นภาษี เรียกว่า “Tax Refund/ Vat Refund/ Tax Free” มีหลายชื่อเรียกครับ

เงื่อนไขการทำ Tax-Refund/ Tax free

เค้าเตอร์ tax refund ตามห้าง

1) ถือวีซ่านักท่องเที่ยวระยะสั้น (Temporarily Visitor) วีซ่านักเรียนก็…อดไปจ้าา ฮือๆๆ

2) ใช้กับสินค้าอุปโภค-บริโภคส่วนบุคคลในญี่ปุ่นเท่านั้น

3) ต้องทำเรื่องขอคือภาษี ณ ร้านค้าที่ซื้อ หรือ เคาเตอร์ Tax-Refund ภายในวันที่ซื้อสินค้าเท่านั้น

*รายชื่อร้านค้าที่ของดเว้นภาษีได้ Click>>>

4) สินค้าที่ของดเว้นภาษีได้คือ

• (a) สินค้าบริโภค (Consumable Items) เช่น อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอางค์ เหล้า บุหรี่ ยา โดยเมื่อรวมราคาสินค้าที่ซื้อมีมูลค่า (ราคาไม่รวมภาษี) ราคาตั้งแต่ 5,000 เยน ถึง 500,000 เยน ต่อ 1 ใบเสร็จ สำคัญ : ซื้อแล้วต้องนำออกจากประเทศภายใน 30 วัน
• (b) สินค้าอุปโภค (General Items) เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า Accessories อื่นๆ (ราคาไม่รวมภาษี) ราคาตั้งแต่ 5,000 เยน ขึ้นไป ต่อ 1 ใบเสร็จ  สำคัญ : ซื้อแล้วต้องนำออกจากประเทศภายใน 6 เดือน

*อัพเดทวันที่ 6 กรกฏาคม 2016
*เราไม่สามารถรวม 2 ประเภทสินค้าแล้วขอคืนภาษีได้นะครับ

ข้อมูลจาก JNTO

 

 

วิธีการทำ Tax-Refund

1) บอกพนักงานว่าทำ Tax-Refund และจ่ายเงินซื้อสินค้าในราคารวมภาษี 8%

2) เตรียมของและเอกสารดังต่อไปนี้ ก่อนไปติดต่อที่เคาร์เตอร์รับทำ Tax-Refund ภายในร้านค้า ณ บริเวณที่ชำระเงินนั้นเลย หรือ เคาท์เตอร์ชำระเงินบริเวณใกล้เคียง หรือ จุดให้บริการในชั้นอื่น (ส่วนมากจะเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ)

• (a) สินค้าค้าที่ซื้อ (ต้องโชว์ให้พนักงานเห็น)
• (b) Passport
• (c) ใบเสร็จสินค้า (ไม่รับใบเสร็จแบบเขียนมือ)

 

3) แสดงหลักฐาน 3 อย่างด้านบน พร้อมกับเซ็นแบบฟอร์มที่ทางพนักงานยื่นให้

*ถ้าใครชำระเงินเป็นบัตรเครดิตให้โชว์ให้พนักงานดูด้วยนะครับ

4) รับเงินสดคืน 

 

ส่วนสินค้า TAX-Free นั้น…. * พนักงานจะออกใบเสร็จออกมาในราคาที่หักภาษีออกเรียบร้อย ตอนจ่ายเงินเราก็จ่ายเป็นราคาปลอดภาษีได้เลยครับ

ต้องโชว์พาสปอร์ตถึงจะซื้อสินค้า tax free ได้

ร้านขายยา tax free ส่วนใหญ่จะหักภาษีให้เลย

 

 

ห้ามลืม!!!

1. ที่ญี่ปุ่นจะไม่มีการทำ Tax-refund ที่สนามบิน
2. ต้องทำเรื่องขอคืนภาษีทันทีเมื่อซื้อสินค้า หรือ ภายในวันที่ซื้อเท่านั้น
3. ต้องโชว์ Passport ทุกครั้ง
4. ตามกฏสินค้าที่ขอคือภาษีจะใช้บริโภคอุปโภคได้เมื่อเดินทางออกจากญี่ปุ่นแล้วเท่านั้น บางครั้งอาจจะมีการสุ่มตรวจที่สนามบิน ถ้าพนักงานเช็คแล้วไม่พบสินค้าเพราะเราใช้หรือบริโภคไปแล้ว เราจะต้องจ่ายภาษีส่วนต่างเพิ่มนะครับ ระวังข้อนี้ด้วย
5. ซื้อสินค้าออนไลน์ทำ Tax-Refund ไม่ได้

 

เคาร์เตอร์ทำ Tax-Refund ในห้าง

 

เค้าท์เตอร์จ่ายเงินสำหรับสินค้า tax free

 

เป็นยังไงกันบ้างครับ หวังว่าบล็อกนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆที่ตั้งใจจะมาช็อปปิ้งที่ญี่ปุ่น ไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ ยังไงก็อยากให้ทุกคนเตรียมการดีๆ อย่าช็อปปิ้งเยอะเกินจนลืมขั้นตอนเหล่านี้ และที่สำคัญ เมื่อซื้อของแล้วอย่าพึ่งรีบกินอย่าพึ่งรีบใช้ รอกลับมาถึงบ้านเราก่อนไม่งั้นอาจจะเสียหายหนัก 555

 

Name(required)

Email(required)

Website

Comment(required)

Submit

Δ

 

เอาละครับวันนี้ฝากไว้เท่านี้ก่อน ขอให้ช็อปปิ้งที่ญี่ปุ่นให้สนุกนะครับ เช่นเคย ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวญี่ปุ่น คุยกันได้ที่ tic-tokyo@his-world หรือแวะมาหากันได้ที่ Tourist Information Centers ในโตเกียวนะครับ วันนี้ลาไปก่อน เจอกันบล๊อกหน้าคร้าบบ !!